จัดอันดับ 6 เหรียญคริปโตพลังงาน น่าลงทุนที่สุด 2025 [แนะนำ!]

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการใช้พลังงานอย่างมหาศาลบนเครือข่าย Bitcoin จากเหรียญ “Proof-of-Work” ซึ่งปัจจุบันล้าสมัยไปแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โครงการนวัตกรรม “เหรียญคริปโตพลังงาน” ต่าง ๆ เริ่มปรากฏให้เห็นในตลาดคริปโต   คู่มือนี้จะแสดงให้เห็นภาพรวมของเหรียญคริปโตรักษ์โลกที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด อธิบายว่าเหรียญคริปโตพลังงานคืออะไร และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ก่อนที่จะกล่าวถึงเหตุผลหลายประการ ว่าทำไมเหรียญคริปโตเกี่ยวกับพลังงานจึงมีความสำคัญ

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

เจาะลึกเหรียญคริปโตประหยัดพลังงานที่น่าลงทุนมากที่สุด

เหรียญคริปโตเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่? นี่อาจเป็นคำถามที่อยู่ในใจของนักลงทุนคริปโตในปี 2025 เพราะการผลิตไฟฟ้าสำหรับเหรียญคริปโตต้องใช้พลังงานสูง ส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำเหรียญคริปโตประหยัดพลังงาน กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในตลาดปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ เรามาเจาะลึกและค้นหาเหรียญดิจิทัลรักษ์โลกที่ประหยัดพลังงาน 6 เหรียญ ตามรายการข้างต้น โดยพูดคุยกันว่าเหรียญเหล่านั้นส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร

1. Ecoterra (ECOTERRA) – เหรียญคริปโตพลังงาน น่าลงทุนที่สุด พร้อมกลไก Recycle2Earn

Ecoterra เป็นเหรียญคริปโตพลังงานชั้นนำซึ่งได้รับการยอมรับจากความมุ่งมั่นในแนวทางการรักษ์โลกที่ยั่งยืน นวัตกรรมแพลตฟอร์ม Recycle2Earn ที่พัฒนาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์จะให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลผ่านการกระทำที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้สร้าง Ecoterra มีพื้นฐานที่มั่นคงในภาคการรีไซเคิล โดยประสบความสำเร็จในการจัดการองค์กรที่โดดเด่นในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตระหนักถึงแพลตฟอร์ม Recycle2Earn พวกเขาได้ร่วมมือกับ Delhaize ซึ่งเป็นเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตระดับโลกที่เปิดบริการทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย

นักลงทุนสามารถรับประโยชน์จากราคาในช่วง Pre-sale ซื้อโทเค็น $ECOTERRA ในราคาเพียง $0.004 USDT ต่อเหรียญ

เอกสารข้อมูล Ecoterra เน้นความสะดวกในการรับรางวัลผ่านแอพ Recycle2Earn ด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้มือใหม่ด้วยการสแกนบาร์โค้ดของสินค้า ซึ่งฐานข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของแอพจะจดจำได้ 

จากนั้น แอพจะแนะนำผู้ใช้ไปยังเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล(RVM) ที่ใกล้ที่สุดเพื่อทำการรีไซเคิล หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น ผู้ใช้จะต้องส่งรูปถ่ายใบเสร็จไปยังแอพและรับโทเค็น Ecoterra เป็นรางวัล

แพลตฟอร์มนี้สร้างความแตกต่างด้วยการขยายจุดสนใจที่มากกว่าการรีไซเคิลธรรมดา โดยมีตลาดวัสดุรีไซเคิลที่ผู้ใช้สามารถซื้อแก้ว พลาสติก หรืออะลูมิเนียมรีไซเคิลด้วยโทเค็น Ecoterra นอกจากนี้ Carbon Offset Marketplace ยังให้ผู้ใช้ซื้อการชดเชยคาร์บอนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งโปรไฟล์ที่ติดตามผลงานการรักษ์โลกจะให้ผู้ใช้ติดตามผลกระทบเชิงบวกภายในระบบนิเวศของ Ecoterra

ปัจจุบัน Ecoterra กำลังดำเนินการ Pre-sale สำหรับโทเค็นหลัก ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งกลไกการทำธุรกรรมและรางวัลบนแพลตฟอร์ม การ Pre-sale ของโทเค็นใช้โครงสร้างการกำหนดราคาจากน้อยไปหามาก โดยราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อการ Pre-sale ดำเนินไปในแต่ละรอบ โดยนักลงทุนรายแรกๆ จะสามารถได้รับประโยชน์จากราคาที่สูงขึ้นเมื่อโทเค็นถูกลิสต์ลงกระดานแลกเปลี่ยนชั้นนำ

ด้วยแรงบันดาลใจจากคอนเซ็ปต์ play-to-earn ทำให้ Ecoterra ได้คิดค้นวิธีการที่สร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการรีไซเคิลและจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เร่งด่วนอย่างภาวะโลกร้อน โดยผู้ใช้สามารถเข้าร่วมกลุ่ม Ecoterra Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดได้

ไปยัง Ecoterra Presale

3. Ethereum (ETH) – เหรียญคริปโตประหยัดพลังงานยอดนิยม ในปี 2025

ไม่จำเป็นต้องแนะนำเหรียญ Ethereum ให้กับผู้ที่ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่เป็นประจำ และดูเหมือนว่าเหรียญคริปโตนี้จะมีแนวโน้มเปลี่ยนไปเป็นเหรียญพลังงานต่ำ ในช่วงที่เขียนบทความนี้ Ethereum ยังคงใช้โปรโตคอล ‘Proof-of-Work’ (PoW) ซึ่งใช้พลังงานสูง แต่กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนไปใช้ระบบ ‘Proof-of-Stake’ (PoS) แทน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เรียกว่า ‘the Merge’ ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงานของ Ethereum ได้อย่างมาก จากข้อมูลของ Ethereum.org การใช้พลังงานของเครือข่ายนี้จะลดลงถึง 99.95% เมื่อเปลี่ยนไปใช้กลไก PoS  สิ่งนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า Ethereum จะกลายเป็นเหรียญดิจิทัลรักษ์โลกที่ประหยัดพลังงาน เนื่องจากจะไม่พึ่งพา ‘การขุด’ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรมอีกต่อไป และระบบนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ขุดที่ใช้พลังงานสูง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อย CO2 ลงได้อย่างมาก นอกจากนี้ การเปลี่ยนเป็นเหรียญคริปโตพลังงานต่ำ จะช่วยให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของการทำธุรกรรมได้ด้วยอุปกรณ์ทั่วไป เช่น แล็ปท็อป และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Ethereum เป็นหนึ่งในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดในระยะยาว

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง  เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

4. Hedera (HBAR) – เหรียญคริปโตประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดด้วยระบบ Hashgraph

Hedera เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2021 เนื่องจากเป็นเหรียญที่ไม่เหมือนใครในตลาดคริปโต เหรียญคริปโตส่วนใหญ่จะใช้บล็อคเชนเพื่อตรวจสอบธุรกรรม แต่ Hedera กลับใช้แนวทางอื่นที่แตกต่างไปจากเหรียญทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เหรียญคริปโตพลังงานต่ำนี้ จะมีบัญชีแยกประเภทที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แทนที่จะใช้ ‘บล็อก’ แต่ Hedera ใช้ ‘hashgraph’ เพื่อตรวจสอบธุรกรรม เทคโนโลยีนี้สร้างขึ้นโดย Leemon Baird และทำให้ Hedera เป็นเครือข่ายเดียวในตลาดที่ใช้ระบบการทำงานในลักษณะนี้ Hedera ตั้งเป้าที่จะเป็นเหรียญดิจิทัลรักษ์โลกที่ใช้พลังงานน้อยที่สุด เนื่องจากไม่ต้องมีคอนเซปต์การขุดเหมือนที่เหรียญ proof of work ที่ดีที่สุดจำเป็นต้องมี ยิ่งไปกว่านั้น Hedera ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นเครือข่ายคาร์บอนติดลบ ด้วยการซื้อคาร์บอนออฟเซ็ตเป็นประจำ โดยทีมพัฒนาเครือข่ายยินดีให้ตรวจสอบผ่านใบรับรองที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจในความโปร่งใสของกระบวนการทำงาน การยกเลิกการขุดคริปโต และซื้อคาร์บอนออฟเซ็ต ทำให้ Hedera เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตพลังงานต่ำที่สุดอีกหนึ่งเหรียญ ร่วมไปกับการมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมได้ถึง 10,000 รายการต่อวินาที (TPS) จึงไม่น่าแปลกใจที่ Hedera จะเป็นเหรียญคริปโตเกี่ยวกับพลังงานที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง  เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

5. Ripple (XRP) – เหรียญคริปโตประหยัดพลังงานที่ใช้วิธีการชำระเงินแบบ Decentralized

Ripple ถือเป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่มีศักยภาพสูงสุดในช่วงกลางปี ​​2010  เนื่องจากมีการปฏิวัติวิธีการชำระเงิน ดังที่คนส่วนใหญ่ทราบกันดีอยู่แล้ว การชำระเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิม อาจใช้เวลาดำเนินการถึง 5 วันทำการ และยังมีค่าใช้จ่ายที่สูง Ripple จึงแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีการชำระเงินที่เสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาที นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมของ Ripple ยังต่ำมาก ๆ โดยการทำธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบผ่านระบบฉันทามติ ซึ่งผู้ตรวจสอบจะต้องยอมรับการทำธุรกรรมก่อน จึงจะสามารถเพิ่มรายการลงในบัญชีแยกประเภทได้ ด้วยกระบวนการนี้ ทำให้ Ripple ได้กลายเป็นเหรียญคริปโตรักษ์โลกที่ใช้พลังงานน้อยกว่าเหรียญส่วนใหญ่ เว็บไซต์ XRP Ledger ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การเปลี่ยนไปใช้เงินสดดิจิทัล จะช่วยลดปัญหาทั้งหมดของเงินที่จับต้องได้ เช่น ภาวะยูโทรฟิเคชัน, ปฏิกิริยาโฟโตเคมีคัลในชั้นโอโซน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อย้ำว่า Ripple เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตพลังงานต่ำอันดับต้น ๆ Ripple ได้มีการออกแบบ ‘เครื่องคิดเลขคาร์บอน’ บนเว็บไซต์ ที่แสดงการใช้พลังงานของเหรียญนี้ เปรียบเทียบกับ Bitcoin และ Ethereum ตัวอย่างเช่น ETH ใช้พลังงาน 25.7 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ในขณะที่ Ripple ใช้พลังงานเพียงแค่ 474,000 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เท่านั้น

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง  เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

6. Chia (XCH) – เหรียญคริปโตประหยัดพลังงานบนเครือข่ายบล็อคเชนที่ใช้พลังงานต่ำ

หนึ่งในเหรียญคริปโตรักษ์โลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ Chia โดย Chia เป็นเหรียญบนเครือข่ายบล็อคเชน ที่ใช้แนวทางการขุดคริปโตแบบประหยัดพลังงาน ที่เรียกว่า ‘Proof-of-Space-and-Time’ เพื่อตรวจสอบธุรกรรม  ระบบฉันทามตินี้เกิดขึ้นบน HDD และ SDD ของผู้ใช้งานเครือข่าย เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ผู้เป็นเจ้าของอุปกรณ์นี้จะถูกเรียกว่า ‘เกษตรกร’ ที่ทำฟาร์มบน ‘แปลง’ ขนาด 100GB บนอุปกรณ์ของพวกเขาซึ่งเต็มไปด้วยแฮช จากนั้น เมื่อมีการเพิ่มบล็อกใหม่ลงในเครือข่าย ผู้ใช้งานที่มีการจับคู่แฮชที่ใกล้เคียงที่สุดจะเป็นผู้ ‘ชนะ’ และได้รับรางวัลจากการตรวจสอบนี้ จากกระบวนการนี้ ทำให้ Chia ลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมากเมื่อเทียบกับ Bitcoin ยิ่งไปกว่านั้น Chia ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Circular Drive Initiative (CDI) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการใช้งานฮาร์ดแวร์เพื่อจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัย ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ Chia เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตพลังงานต่ำที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการชำระเงินข้ามพรมแดนโดยไม่เปิดเผยตัวตน นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น XCH จากกระดานซื้อขาย altcoin ที่ดีที่สุดได้หลายแห่ง เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโต

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง  เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

7. Algorand (ALGO) – เหรียญคริปโตประหยัดพลังงานที่มีโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากมาย

Algorand ดูเหมือนจะเป็นเหรียญคริปโตประหยัดพลังงานมากที่สุดในตลาด โดยมุ่งมั่นที่จะคงสถานะคาร์บอนติดลบ สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ คาร์บอนติดลบหมายความว่า เครือข่ายนั้น ๆ มีการปล่อย CO2 น้อยกว่าศูนย์ ซึ่งหมายถึงการมีความสามารถในการ “กำจัด” คาร์บอนไดออกไซด์ก่อนปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ Algorand ร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ เช่น ClimateTrade ซึ่งช่วยให้เครือข่ายนี้สามารถชดเชยการปล่อย CO2 ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ClimateTrade ยังช่วยสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ Algorand เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ตัวอย่างโครงการ ได้แก่ โครงการ Southern Cardamom REDD+ และโครงการ Oaxaca Wind โดย ACCIONA ซึ่งเป็นโครงการนำร่องสองโครงการที่มีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ Algorand ยังเป็นเครือข่าย ‘Pure Proof-of-Stake’ จึงช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากการใช้พลังงานในการขุดคริปโต นักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่มักจะลงทุนในบิทคอยน์ อาจต้องลองพิจารณา Algorand เพิ่มเติม เพราะเหรียญคริปโตพลังงานต่ำนี้ สามารถรองรับได้ 6,000 TPS ในขณะที่ Bitcoin สามารถรองรับได้เพียง 5 รายการเท่านั้น Algorand ยังมีการทำธุรกรรมขั้นสุดท้ายอย่างรวดเร็ว ทำให้กลายเป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง  เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง

เหรียญคริปโตพลังงานช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างไร?

เหรียญที่เน้นความยั่งยืน มักจะเป็นการลงทุนเหรียญคริปโตถือยาวที่ดีที่สุดเนื่องจากการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะมีค่าอย่างมากในปีต่อ ๆ ไป แต่การซื้อเหรียญพลังงานนี้ ช่วย ‘ประหยัดพลังงาน’ ได้จริงหรือ? เพื่อให้เข้าใจว่าเหรียญคริปโตพลังงานต่ำ สามารถประหยัดพลังงานได้อย่างไร จำเป็นต้องกล่าวถึงผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เมื่อเปรียบเทียบกับ Bitcoin ที่ใช้พลังงานอย่างมหาศาล สิ่งนี้ดูจะไม่ค่อยยุติธรรม เนื่องจากไม่คำนึงถึงผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากคริปโตเคอเรนซี่อื่น ๆ หลายร้อยสกุล ต้องบอกว่า การใช้พลังงานของ Bitcoin เป็นปัญหาใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย จากข้อมูลของ Forbes เหรียญ Bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้าต่อปีในอัตรา 127 เทราวัตต์-ชั่วโมง (TWh) ซึ่งมากกว่าปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าต่อปีของประเทศนอร์เวย์ทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม เหรียญคริปโตประหยัดพลังงานที่สุด แก้ปัญหานี้โดยใช้แนวทางที่แตกต่างจาก Bitcoin การเปลี่ยนแปลงที่พบบ่อยที่สุด คือ การเลือกใช้ระบบฉันทามติ PoW ที่แม้ว่าระบบ PoS ​​จะเป็นระบบที่มีการใช้งานมากที่สุด และบางเครือข่ายก็ใช้เทคนิคพิเศษ เช่น ‘Proof-of-Space-and-Time’ หรือ ‘Proof-of-History’. ด้วยวิธีการนี้ เหรียญคริปโตน่าเทรดที่ดีที่สุดจำนวนมาก สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลงได้ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการขุดเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม สิ่งนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากมายมหาศาลต่อปี นอกจากนี้ เครือข่ายที่ใช้ระบบ PoW ยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นจากมุมมองของการตรวจสอบ เนื่องจากหากต้องการตรวจสอบความถูกต้องของ Bitcoin จำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์ราคาแพง เพื่อเข้าสู่กระบวนการขุด ในขณะที่ เครือข่ายที่ใช้ระบบฉันทามติอื่น ๆ อนุญาตให้ผู้ตรวจสอบใช้ฮาร์ดแวร์ “ปกติ” เช่น แล็ปท็อป หรือคอมพิวเตอร์ได้

ทำไมเหรียญคริปโตประหยัดพลังงานจึงมีความสำคัญ

หลายคนเชื่อว่า การลงทุนใน Blockchainมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกำไรได้ดี อย่างไรก็ตาม เหรียญคริปโตรักษ์โลกที่ประหยัดพลังงานก็สามารถให้ผลกำไรจากการลงทุนได้เช่นกัน และยังคืนกำไรกลับสู่สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ด้วยเหตุผลนี้ เราลองมาศึกษาเหตุผลบางประการ ว่าทำไมเหรียญคริปโตพลังงานจึงมีความสำคัญ:

ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

โดยทั่วไปแล้ว เหตุผลหลักที่ทำให้เหรียญคริปโตพลังงานต่ำมีความสำคัญ ก็คือ การลดปริมาณของ CO2 ที่จะถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของภาวะโลกร้อน และนำไปสู่ผลลัพธ์อันเลวร้ายอีกมากมาย เช่น การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก หากมีเหรียญคริปโตในอนาคตจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี ‘สีเขียว’ เราน่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้พลังงานได้ดีมากขึ้น เช่น ระบบ PoW และช่วยให้เหรียญพลังงานคริปโตเหล่านี้ มีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจทางการเงินสำหรับทีมพัฒนา เพื่อคงไว้ซึ่งความยั่งยืน

ให้ทางเลือกแก่นักลงทุนที่เน้น ESG

นักลงทุนที่เน้น ESG มักจะสงสัยว่า มีเงิน 2 แสน ลงทุนอะไรดี (หรือจำนวนเท่าใดก็ได้) อย่างไรในตลาดคริปโต ที่ในอดีตเคยถูกจำกัดให้เลือกเพียงบางโครงการ สิ่งนี้เริ่มเปลี่ยนไป เนื่องจากมีการเปิดตัวเหรียญคริปโตพลังงานมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้ เหรียญคริปโตเกี่ยวกับพลังงานส่วนใหญ่ คือโอกาสการลงทุนที่น่าดึงดูด เนื่องจากเหรียญพลังงานเหล่านี้มีแนวโน้มว่าจะทำกำไรในระยะยาว ซึ่งดึงดูดนักลงทุนที่เน้นการลงทุน ESG 

การผนึกกำลังระหว่างแบรนด์และบุคคลทั่วไป

สุดท้าย เหรียญคริปโตพลังงานเหล่านี้ ช่วยให้บุคคลทั่วไปและแบรนด์ร่วมมือกันทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกันมากขึ้น เนื่องจากทั้งสองกลุ่มนี้ ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันเท่าไหร่นัก สาเหตุหลักมาจากแบรนด์ต่าง ๆ มักจะให้ความสำคัญกับผลกำไรเสียมากกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะมีเหรียญดิจิทัลรักษ์โลกมาใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ได้กลายเป็นเหรียญที่เน้นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบุคคลและแบรนด์เพื่อประโยชน์ของโลก Algorand เป็นผู้นำในเรื่องนี้ เนื่องจากร่วมมือกับ ClimateTrade ที่เป็นเครือข่ายชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอน

ปรับปรุงภาพลักษณ์ของตลาดคริปโต

เหรียญคริปโตพลังงาน มีความสำคัญต่อการปรับปรุงภาพลักษณ์ของตลาดคริปโตภาพรวม  ผู้ที่ซื้อเหรียญคริปโตเป็นประจำจะเข้าใจว่า สื่อหลักหลาย ๆ แห่ง พยายามหาโอกาสที่จะเล่นงานตลาดคริปโตอยู่เสมอ มีการพูดถึงเมื่อเร็ว ๆ นี้จากบางกลุ่มคนว่า เหรียญคริปโต “ทั้งหมด” เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ประชาชนควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากเหรียญคริปโตพลังงาน ได้กลายมาเป็น ‘บรรทัดฐาน’ ใหม่ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของตลาดโดยรวมได้

วิธีค้นหาเหรียญคริปโตพลังงาน

การระบุเหรียญดิจิทัลรักษ์โลกที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดถือเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดคริปโตเคอเรนซี่ที่มีความอิ่มตัวสูง เพื่อช่วยให้ค้นเจอเหรียญนั้น รายละเอียดด้านล่างจะเป็นกลยุทธ์บางส่วน ที่นักลงทุนใช้เพื่อค้นหาเหรียญคริปโตพลังงานเหล่านี้:

มองหาพันธมิตรและความร่วมมือ

เหรียญคริปโตพลังงานจำนวนมาก จะร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เหรียญพลังงานเหล่านี้มีเป้าหมายที่มุ่งเน้นความยั่งยืน เนื่องจากทีมพัฒนาจะใช้ทรัพยากรของตนอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้น การเป็นพันธมิตรร่วมกันมักจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเป็นการปลุกจิตสำนึกในภารกิจของตนเอง ด้วยเหตุนี้ การประกาศความร่วมมือที่โลกจับตามอง จึงเป็นวิธีที่ดีในการค้นหาเหรียญคริปโตรักษ์โลก

การตรวจสอบแผนงานของโครงการ

แผนงานของโครงการเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการระบุว่า เหรียญคริปโตนั้นสามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน สำหรับผู้ที่ไม่รู้ เหรียญคริปโตพลังงาน มักจะนำเสนอแผนงานของพวกเขาบนเว็บไซต์ โดยให้รายละเอียดของแผนทั้งหมดในอนาคต เครือข่ายชั้นนำหลายแห่ง เช่น Algorand และ Cardano เน้นย้ำเรื่องความยั่งยืนและความเป็นกลางทางคาร์บอน (หรือคาร์บอนติดลบ) ดังนั้น การมองหาเหรียญคริปโตเกี่ยวกับพลังงานเช่นนี้ จะช่วยให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า กำลังลงทุนในโครงการที่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

การศึกษาวิจัยในเทคโนโลยีพื้นฐาน

เว็บไซต์ข่าวคริปโตมักมีการพูดถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในตลาดคริปโตอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเน้นที่การเพิ่มปริมาณงานและความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มุ่งเน้นความเป็นนวัตกรรมที่สร้างประโยชน์ทั้งสองส่วนมากขึ้น ก็ยังต้องให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เครือข่าย PoS อาจเป็นนวัตกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น นวัตกรรม ‘hashgraph’ จาก Hedera ก็อาจกลายเป็นทางเลือกที่ทดแทนเครือข่ายมาตรฐานได้เช่นกัน

การใช้โซเชียลมีเดีย

สุดท้าย หลาย ๆ บัญชีคริปโตบน Twitter ที่ดีที่สุด มีการอัปเดตนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เป็นประจำ แม้ว่าการอัปเดตเหล่านี้จะเน้นไปที่คริปโตเคอเรนซี่ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูง แต่ก็มีเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่นักลงทุนควรพิจารณาเช่นกัน บัญชีคริปโตใน TikTok ที่ดีที่สุด ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งมักจะให้ข้อมูลของเหรียญคริปโตแก่บุคคลทั่วไป การใช้ทั้ง Twitter และ TikTok นี้ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหาเหรียญคริปโตพลังงาน ว่าเหรียญใดที่พยายามช่วยลดการปล่อย CO2 ได้อย่างแท้จริง

บทสรุป

โดยสรุป คู่มือนี้ได้กล่าวถึงเหรียญดิจิทัลรักษ์โลกที่ประหยัดพลังงานที่สุดในตลาดตอนนี้ โดยเน้นไปที่การอธิบายว่าแต่ละเหรียญคืออะไร และมีวิธีการใดที่ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในเหรียญคริปโตพลังงานที่ดีที่สุด สามารถซื้อขายเหรียญคริปโตผ่าน eToro ได้หลายโครงการ เช่น Ethereum, Cardano และ Algorand โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำได้ที่ 10 ดอลลาร์ ยิ่งไปกว่านั้น eToro ยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพียง 1% สำหรับคำสั่งซื้อและขาย (บวกค่าสเปรด) ทำให้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นไปอย่างโปร่งใส 

ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับเหรียญคริปโตพลังงานที่สุดคือ Ecoterra ซึ่งพยายามความเพิ่มการตระหนักรู้ให้ผู้คนทราบเกี่ยวกับความสำคัญของการรีไซเคิลผ่านโปรแกรมด้านสิ่งแวดล้อม และยังกระตุ้นให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการรีไซเคิลอย่างแข็งขัน โดยการ Pre-sale ของโทเค็น $ECOTERRA ก็เพิ่งเปิดตัวไป โดยมีราคาโทเค็นอยู่ที่ $0.004 USDT ต่อเหรียญ

ไปยัง Ecoterra Presale

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหรียญคริปโตพลังงาน