ด้านล่างคือรายการศัพท์การตลาดออนไลน์ที่คุณมักจะเจอบ่อยที่สุดในโลกอินเทอร์น็ตและบล็อกต่างๆ ซึ่งถ้าคุณยังใหม่กับการเขียนบล็อกหรือการตลาดออนไลน์ คำเหล่านี้ก็อาจจะ ‘ไม่คุ้นหู’ สำหรับคุณนัก แต่ยิ่งคุณเห็นและได้ยินศัพท์เหล่านี้บ่อยขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งคุ้นเคยมากขึ้นเท่านั้น และคุณอาจเคยได้ยินหลายศัพท์เหล่านี้มาแล้วหลายครั้ง!

ศัพท์การตลาดออนไลน์ คําศัพท์การตลาด ภาษาอังกฤษ

ศัพท์การตลาดออนไลน์

  1. A/B Testing – หรือ Split Testing  คือกระบวนการเปรียบเทียบและประเมินประสิทธิภาพของหน้าเว็บสองเวอร์ชัน
  2. Affiliate – หรือบริษัทในเครือ เป็นหน่วยงานที่มีความสัมพันธ์กับหน่วยงานที่ใหญ่กว่า คำนี้มักใช้ใน Affiliate Marketing โดยจะมีการเผยแพร่ Affiliate Link ซึ่งมักจะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทที่ลิงค์เชื่อมไป
  3. Algorithm – อัลกอริทึมคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เครื่องมือค้นหาใช้ในการค้นหาข้อมูลหรือตัวชี้วัด ซึ่งทำให้สามารถแสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้ได้
  4. Algorithm Update – เครื่องมือค้นหาอัพเดตอัลกอริทึมเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นประจำ และทำให้ผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหามีความเกี่ยวข้อง และเพื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการจัดทำตัวชี้วัดและจัดอันดับเว็บไซต์
  5. Application – แอพพลิเคชันคือซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยี หรืออีกชื่อที่ต้องรู้คือโปรแกรมประยุกต์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่บางอย่าง
  6. B2B – อีกหนึ่งคำศัพท์ทางการตลาด Marketing Technical Term อย่าง B2B (ย่อมาจากธุรกิจระหว่างธุรกิจ) หมายถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล ผลิตภัณฑ์ หรือบริการระหว่างธุรกิจ
  7. Back-end Tool – Back-end Tool เป็นแอพพลิเคชันหรือโปรแกรมที่ใช้จัดการหลังบ้านของเว็บไซต์ โดยการเปลี่ยนแปลงที่ทำด้วยวิธีนี้จะส่งผลไปยังหน้าเว็บไซต์
  8. Benchmark – หรือเกณฑ์มาตรฐานเป็นจุดอ้างอิงกับสิ่งที่ใช้วัดและเปรียบเทียบ
  9. Bounce Rate – ตัวชี้วัดที่แสดงถึงจำนวนผู้ที่ออกจากเว็บไซต์หลังจากเข้าชมเพียงหน้าเดียว โดย Google แนะนำว่า Bounce Rate ที่ต่ำกว่า 40% ถือว่ายอมรับได้
  10. Branding – หรือการสร้างแบรนด์เป็นหนึ่งในศัพท์ Marketing เพื่อสร้างภาพลักษณ์หรือการเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์เพื่อครองใจผู้บริโภคและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าผ่านแคมเปญการตลาดประเภทต่างๆ
  11. Call To Action(CTA) – เป็นปุ่มบนเว็บไซต์ที่กระตุ้นให้ผู้รับชมกดคลิกที่ปุ่มนั้นๆ เช่น โทร ลงชื่อ ลงทะเบียน ฯลฯ
  12. Code – ในการคำนวณ Code คือชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นเพื่อให้โปรแกรมสามารถทำงานตามที่คำสั่งกำหนดได้
  13. Content – หรือเนื้อหาคือข้อมูลที่ถ่ายทอดเรื่องราว แบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และอธิบายบางอย่างให้กับผู้ใช้ทางอินเทอร์เน็ต โดยเนื้อหาประเภทต่างๆ เช่น เนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร รูปภาพ และวิดีโอ ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูด น่ามีส่วนร่วม และเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดีย สมาชิกอีเมล ฯลฯ ให้มาเป็นลูกค้า
  14. Conversion – สำหรับคําศัพท์การตลาด ภาษาอังกฤษ การขายมักจะถือเป็น Conversion โดยเมื่อคุณได้รับ Conversion หมายความว่าคุณสามารถเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ให้เป็นลูกค้าที่พร้อมจ่ายเงินได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ และยังมีอีกหลายการกระทำที่อาจถือเป็น Conversion เช่น สมัครรับจดหมายข่าว ดาวน์โหลดไฟล์ เป็นผู้ติดตามในโซเชียล เป็นต้น
  15. Convert – หรือการแปลงผู้เยี่ยมชมเป็นคำที่มักใช้สำหรับการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้เป็นลูกค้าของธุรกิจ
  16. Cookies – เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ส่งและจัดเก็บไปยังคอมพิวเตอร์เมื่อใช้เบราว์เซอร์เพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ วัตถุประสงค์ของ​Cookies คือเพื่อบันทึกกิจกรรมการท่องเว็บและเพื่อปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้
  17. Copyright – หรือลิขสิทธิ์เป็นสิทธิ์ทางกฎหมายที่มอบให้กับเจ้าของเนื้อหาที่สร้างขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
  18. CPM – หรือต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้ง เป็นหนึ่งในศัพท์การตลาดยุคใหม่ ที่คุณต้องจ่ายค่าโฆษณาต่อการดูหนึ่งพันครั้ง
  19. CRO – คือการปรับเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และแสดงถึงอัตราผู้เยี่ยมชมที่เรียกดูเว็บไซต์ของคุณ ถูกแปลงเป็นลูกค้า
  20. DNS – Data Sour Name เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับฐานข้อมูลใดๆ โดย DNS จะอนุญาตให้เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลดังกล่าว
  21. Email MarketingEmail Marketing เป็นอีกหนึ่งศัพท์การตลาด 2024 ซึ่งเป็นกระบวนการโปรโมทเว็บไซต์ผ่านการส่งอีเมล
  22. Engagement – คำนี้หมายถึงความเป็นไปได้ในการเชื่อมต่อกับลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและเพื่อเพิ่มการโน้มน้าวใจ
  23. Entry Page – หรือหน้าแรกเป็นหนึ่งในหน้าบนเว็บไซต์ที่ผู้เข้าชมเห็นเป็นครั้งแรกเมื่อเข้าเว็บไซต์ หรือเรียกอีกอย่างว่าหน้า Landing Page
  24. eWoM – หรือการสื่อสารแบบปากต่อปากบนอินเทอร์เน็ตก็เหมือนกับการตลาดแบบปากต่อปากแบบดั้งเดิม ในรูปแบบนี้ การตลาดจะอาศัยข้อความเชิงบวกหรือเชิงลบเกี่ยวกับบริษัทจากลูกค้าและการแชร์ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น โซเชียลเน็ตเวิร์ก อีเมล และอื่นๆ
  25. Exit Page – เป็นคำศัพท์การตลาด ซึ่งหมายความว่าหน้าสุดท้ายที่ผู้ใช้เข้าถึง ก่อนที่จะออกจากเว็บไซต์
  26. Google Penalty – หรือบทลงโทษของ Google ส่งผลเสียต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ เนื่องจาก Google จะลดอันดับในเว็บไซต์ของคุณลงไป โดยบทลงโทษอาจเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้เนื่องจากการอัพเดตอัลกอริทึม หรือเว็บไซต์ของคุณอาจถูกลงโทษเนื่องจากการใช้เทคนิคบิดเบือนและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งเรียกว่า Black Hat SEO
  27. HTML Page – HTML ย่อมาจาก Hypertext Markup Language และเป็นตัวแทนของระบบมาตรฐานสำหรับการแท็กไฟล์ข้อความ โดย HTML Page คือหน้าเว็บที่ใช้ HTML เพื่อแท็กเนื้อหา ซึ่งช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถระบุส่วนต่างๆ ของข้อความได้
  28. HTML Validator – เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบองค์ประกอบภาษาที่ใช้กำหนดรูปแบบของ HTML เพื่อตรวจหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
  29. Impressionศัพท์การตลาดออนไลน์ที่ต้องรู้คือ Impression หรือ View จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ผู้เยี่ยมชมทางอินเทอร์เน็ตเห็นข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องคลิก
  30. Inbound Marketing – หรือการตลาดแบบแรงดึงดูดคือการทำการตลาดซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสนใจและดึงดูดผู้เยี่ยมชมมายังเว็บไซต์ ซึ่งคุณมีโอกาสที่จะแปลงผู้เยี่ยมชมเหล่านั้นเป็นลูกค้าได้
  31. JavaScript – JavaScript เป็นภาษาสคริปต์ที่ใช้ในไฟล์ HTML ของเว็บไซต์
  32. Keyword – หรือคีย์เวิร์ดคือคำหรือวลีที่ใช้อธิบายเนื้อหาของเว็บเพจ โดยคีย์เวิร์ดถูกใช้ในตลาดอินเทอร์เน็ตประเภทต่างๆ เช่น SEO, โฆษณาแบบชำระเงิน, และอื่นๆ
  33. Keyword Density – หรือการกระจายตัวของกลุ่มคีย์เวิร์ด ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของการใช้คีย์เวิร์ดบนหน้าเว็บ
  34. Keyword Research – นี่หมายถึงกระบวนการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องมากที่สุดบนเว็บไซต์ของคุณ เมื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหา เนื่องจากผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาจะถูกจัดหมวดหมู่ตามคีย์เวิร์ด ซึ่งคุณจำเป็นต้องใช้เฉพาะคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องเพื่อดึงดูดผู้ชมเป้าหมายนั่นเอง
  35. Keyword Stuffing – หรือการยัดคีย์เวิร์ดคือกระบวนการเพิ่มคีย์เวิร์ดมากๆ ลงในเนื้อหา โดยจุดประสงค์ของการทำแบบนี้คือเพื่อทำให้อัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหาจัดอันดับเว็บไซต์ให้ดีขึ้น แต่การทำแบบนี้อาจถูกลงโทษโดยเครื่องมือค้นหา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่แนะนำให้ยัดคีย์เวิร์ดในการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหานั่นเอง
  36. KPI – หรือดัชนีชี้วัดผลงานคือประเภทของการวัดที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของเว็บไซต์
  37. Landing Page – หน้า Landing Page หรือที่เรียกว่า Lead Capture Page/Lander เป็นหน้าเดียวที่ปรากฏขึ้นหลังจากที่ผู้ใช้คลิกลิงค์ในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา โฆษณาบนเครื่องมือค้นหา ลิงค์ที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และลิงค์ที่อยู่ในแคมเปญอีเมล เป็นต้น
  38. Lead – ในการตลาดออนไลน์ที่พบบ่อยๆ Lead คือผู้สนใจที่มีศักยภาพในการเป็นลูกค้า เพราะมีความสนใจ ความต้องการ ฯลฯ และยังมีการใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการตลาดออนไลน์เพื่อดึงดูดผู้ที่สนใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
  39. Meta Tag – นี่คือระบบการเข้ารหัสใน HTML เพื่อทำเครื่องหมายเนื้อหาของเว็บไซต์เพื่อให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจข้อมูล โดย Meta Tag จะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร HTML
  40. Metric –หรือตัวชี้วัดใช้ในการติดตามและตรวจสอบองค์ประกอบเฉพาะของเว็บไซต์เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
  41. Mobile Device – หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
  42. Mobile-friendly – คำนี้มักใช้สำหรับการออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถือคือเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ใดๆ โดยไม่ลดประสบการณ์ของผู้ใช้ลง
  43. Multivariate Testing – หมายถึงกระบวนการทดสอบหน้าเว็บที่มีหลายๆ องค์ประกอบ เพื่อกำหนดชุดค่าผสมขององค์ประกอบที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  44. Off-page – ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับซึ่งไม่มีในเว็บไซต์จริง ซึ่งรวมถึง External Link
  45. Online Advertising – การโฆษณาออนไลน์หรือที่เรียกว่าการโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตเป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาดที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อโปรโมทธุรกิจและเผยแพร่ข้อความส่งเสริมการขาย
  46. On-page – ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับซึ่งมีอยู่บนเว็บไซต์จริง ได้แก่ แท็ก คีย์เวิร์ด เนื้อหา เป็นต้น
  47. Optimization – หรือการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นกระบวนการปรับปรุงองค์ประกอบทั้งในและนอกเว็บตามแนวทาง SEO เพื่อเพิ่มอันดับของเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา

โดยส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ เช่น เนื้อหา ชื่อเรื่อง รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ

  1. Opt in/out – การสมัครหรือไม่สมัครจดหมายข่าวทางอีเมลและรายการของนักการตลาด
  2. Organic Reach – จำนวนคนที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมดที่เห็นเว็บไซต์หรือโพสต์ของคุณโดยไม่ได้ชำระเงิน
  3. Outbound Marketing – หรือการตลาดแบบผลักหมายถึงการใช้แหล่งข้อมูลภายนอกเพื่อเผยแพร่เว็บไซต์ ซึ่งแตกต่างจากการตลาดแบบแรงดึงดูด โดยวิธีแบบผลักจะใช้แหล่งข้อมูลภายนอก ทั้งแบบชำระเงินและไม่ชำระเงินเพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและประสิทธิภาพเว็บไซต์
  4. Paid Reach – จำนวนคนที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมดที่เห็นเว็บไซต์หรือโพสต์ของคุณผ่านการชำระเงิน
  5. Personalization – นี่หมายถึงกระบวนการปรับแต่งบางอย่างให้ตรงตามความต้องการ

การปรับเปลี่ยนให้ตรงตามความต้องการเป็นวิธีการที่ควรทำใน Social Media Marketing และ Email Marketing เป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้คุณสร้างการเชื่อมต่อกับผู้ติดตามในโซเชียลหรือสมาชิกอีเมลได้

รูป seolium

  1. Platform – แพลตฟอร์มคือระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดแอพพลิเคชัน
  2. Positioning – อีกหนึ่งศัพท์น่ารู้ Positioning หมายถึงตำแหน่งของเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา เนื่องจากหน้าเพจที่อยู่ในอันดับบนสุดของผลลัพธ์จะได้รับการเข้าชมมากขึ้น Positioning จึงเป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่สำคัญ
  3. PPCPPC ย่อมาจาก Pay Per Click ซึ่งเป็นประเภทของการโฆษณาแบบเสียเงินที่ใช้ในการตลาดออนไลน์ โดยผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณา ซึ่งสามารถแสดงในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาว่าเป็นผลลัพธ์ที่ได้รับการสนับสนุน หรือบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค
  4. Proxy –Proxy หรือ Proxy Server คือคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างไคลเอ็นต์และทรัพยากร
  5. Ranking – หมายถึงอันดับของเว็บไซต์ในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา เพราะเครื่องมือค้นหาจัดอันดับเว็บไซต์ตามเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป โดยสิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของเครื่องมือค้นหาเพื่อเพิ่มอันดับและโปรโมทเว็บไซต์
  6. Reach – คือจำนวนคนทั้งหมดที่เห็นข้อความหรือแคมเปญการตลาดทางอินเทอร์เน็ต
  7. Referral – นี่หมายถึงหน้าเพจที่เชื่อมโยงไปยังเว็บอื่น
  8. ROI – หรือผลตอบแทนจากการลงทุน/อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรคือผลประโยชน์ที่นักลงทุนได้รับจากการลงทุน โดย ROI คือการเปรียบเทียบกำไรที่คุณทำได้กับเงินต้นที่ลงทุนไป
  9. Search Query – คือคำที่ผู้ใช้พิมพ์ลงในเครื่องมือเครื่องมือค้นหา โดยจะมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับประเภทของข้อมูลที่ผู้ใช้ค้นหาด้วยเครื่องมือค้นหา
  10. SEM – การทำการตลาดออนไลน์สำหรับใช้งานจริงเป็นวิธีการทำการตลาดประเภทหนึ่งที่เว็บไซต์ได้รับการโปรโมทผ่านเครื่องมือค้นหา โดยใช้วิธีทั้งแบบไม่เสียเงิน (SEO) และแบบเสียเงิน (PPC)
  11. SEO – กระบวนการทำการตลาดผ่าน Search Engine เป็นการตลาดออนไลน์ประเภทหนึ่งที่การจัดอันดับของเว็บไซต์จะถูกพัฒนาด้วยวิธีการที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
  12. SERP – SERP ย่อมาจากหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา และเป็นหน้าที่แสดงต่อผู้ใช้หลังจากที่พวกเขาพิมพ์คำค้นหาลงในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา โดยหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาจะแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อความค้นหา รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้รับการสนับสนุน (Sponsored Results) และผลลัพธ์ทั่วไป (Organic Result)
  13. Session – หรือเซสชั่นคือที่อยู่ IP ที่ไม่ได้เยี่ยมชมเว็บไซต์ภายใน 30 นาทีที่ผ่านมา ในแง่ของเว็บไซต์ เซสชั่นจะถูกกำหนดให้เป็นการเยี่ยมชมเว็บไซต์เป็นครั้งคราว
  14. SMMSocial Media Marketing เป็นการตลาดออนไลน์ประเภทหนึ่งที่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทธุรกิจ เพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ และดึงดูดผู้ที่สนใจมากขึ้น
  15. Strategy – หรือกลยุทธ์คือแผนธุรกิจที่มีการพัฒนาอย่างดีในการวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน เป้าหมายที่ควรบรรลุโดยการนำกลยุทธ์ไปปรับใช้ การดำเนินการที่ต้องทำ ตลอดจนวิธีการติดตามและวัดผลประสิทธิภาพของกลยุทธ์ ในแง่ขอการตลาดออนไลน์ กลยุทธ์การตลาดอินเทอร์เน็ตจะเกี่ยวกับการวางแผนและงานที่ต้องดำเนินการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดออนไลน์
  16. Target Audience – หรือกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่คุณต้องการเข้าถึง โดยคุณควรเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาดอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากผู้ใช้เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้า สมาชิก ผู้ติดตาม ฯลฯ ของคุณนั่นเอง
  17. Targeting – การกำหนดเป้าหมายเป็นกระบวนการของการเลือก โดยปกติจะหมายถึงการเลือกผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเพื่อสร้างกลุ่ม ซึ่งมักจะเรียกว่ากลุ่มเป้าหมายของผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณมากที่สุดนั่นเอง
  18. Trademark – หรือเครื่องหมายการค้าคือการออกแบบซึ่งเป็นที่รู้จักและแสดงถึงภาพลักษณ์ของบริษัท ธุรกิจ หรือบุคคล
  19. Traffic – ในอินเทอร์เน็ต Traffic หมายถึงการไหลของข้อมูล แต่ในทางเว็บไซต์ จะแสดงถึงข้อมูลเชิงลึกที่ส่งและรับโดยผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์นั้น ไม่ว่าจะใช้วิธีชำระเงินหรือไม่ชำระเงินก็ตาม
  20. URL – Uniform Resource Locator หมายถึงที่อยู่ของไฟล์บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็คือที่อยู่ของเว็บไซต์ที่คุณพิมพ์ลงในเบราว์เซอร์เพื่อค้นหาเว็บไซต์ใดๆ นั่นเอง
  21. User – ในแง่ของอินเทอร์เน็ต User หรือผู้ใช้คือบุคคลที่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูลหรือใช้ในการติดต่อ
  22. Visibility – คือโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา ทั้งยังเป็นศัพท์การตลาดยุคใหม่ที่ควรรู้อีกด้วย โดยการตลาดออนไลน์จะเพิ่ม Visibility ให้กับเว็บไซต์ของคุณ และเพิ่มความเป็นไปได้ที่เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏในผลการค้นหาทั่วไป
  23. Visit – การเข้าชม หรือที่เรียกว่าเซสชั่น คือการวัดที่ใช้เพื่อระบุการกระทำของผู้ใช้ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งๆ
  24. W3C – W3C ย่อมาจาก World Wide Web Consortium และใช้แสดงชุมชนที่ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานเว็บ
  25. Web Analytics Tool – เครื่องมือเหล่านี้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์เว็บเพื่อการตรวจสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์
  26. Web Browsing – หรือการท่องเว็บเป็นกระบวนการของการใช้เว็บเบราว์เซอร์ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่อค้นหาข้อมูลออนไลน์
  27. Webmaster – Webmaster คือบุคคลที่สร้างและจัดการเว็บไซต์
  28. Website Analytics – คือกระบวนการวิเคราะห์ที่รวบรวมเมตริกต่างๆ เช่น การเข้าชมเว็บไซต์ จำนวนผู้ที่ออกจากเว็บไซต์ ระยะเวลาเซสชั่น การแนะนำ ฯลฯ โดยข้อมูลเหล่านี้จะเกี่ยวกับเว็บไซต์ใช้เพื่อใช้วิเคราะห์และตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์
  29. Website Directory – หรือเว็บไดเรคทอรี่เป็นเว็บไซต์ที่เก็บรวบรวมลิงค์ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งจะมีการแบ่งตามหมวดหมู่
  30. Website Navigation – แสดงถึงโครงสร้างของเว็บไซต์ที่ใช้เพื่อนำทางผู้ใช้ไปยังส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์
  31. Website Saturation – สำหรับศัพท์ทางการตลาด พร้อมความหมายของคำนี้หมายถึงจำนวนหน้าเว็บจากโดเมนเดียวซึ่งวัดโดยเครื่องมือค้นหา
  32. Whois Tool – นี่คือเครื่องมือออนไลน์ที่ให้คุณพิมพ์ URL ที่คุณต้องการตรวจสอบและดูว่าใครเป็นเจ้าของเว็บไซต์ โดยข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม ได้แก่ อีเมลของเจ้าของเว็บ เว็บโฮสติ้ง วันหมดอายุของโดเมน ฯลฯ…

เมื่อคุณจดทะเบียนโดเมน คุณสามารถเลือกที่จะซ่อนข้อมูลนี้ได้ ซึ่งในกรณีนี้ Whois Tool จะไม่แสดงผลลัพธ์เหล่านี้เมื่อเว็บไซต์ของคุณถูกวิเคราะห์

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์! สมัครรับจดหมายข่าวจากเรา และเริ่มสร้างมหากาพย์ธุรกิจออนไลน์ของคุณได้แล้ววันนี้!

อภิธานคำศัพท์ทั่วไปสำหรับบล็อกเกอร์

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัพท์การตลาดออนไลน์

คําศัพท์ทางการตลาด คําอ่าน คําแปลที่ควรรู้คืออะไร?

ศัพท์การตลาดออนไลน์ที่พบบ่อยที่สุดคืออะไร?

ข้อควรรู้เกี่ยวกับศัพท์การตลาดออนไลน์คืออะไร?