หากคุณต้องการลงทุนเทรดหุ้น เทรดคริปโต หรือสินทรัพย์อื่นๆ ในที่ที่เชื่อถือได้ คุณต้องมีบัญชีของแพลตฟอร์มเทรด
คุณสามารถหาแพลตฟอร์มเทรดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ รองรับตลาดมากมาย มีฟีเจอร์ครบครัน และให้บริการระดับดีเยี่ยม
โดยในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้
แพลตฟอร์มเทรดน่าใช้ในปี 2024
ด้านล่างคือแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุด
- Pepperstone – โบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก
- PrimeXBT – แอปเทรดครบวงจรสำหรับ ที่รองรับการเทรดได้ทั้ง หุ้น ฟอเร็กซ์ คริปโต และอีกมากมาย
- eToro – แพลตฟอร์มเทรดโดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2024
- Crypto.com – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
- XTB – แพลตฟอร์มเทรด Forex, หุ้น, เหรียญคริปโตและอื่นๆ
- Webull – แพลตฟอร์มเทรดหุ้นสหรัฐและเหรียญคริปโตยอดนิยม
- Coinbase – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่
- Binance – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตระดับสูงที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ
- Interactive Brokers – แพลตฟอร์มเทรดที่รองรับตลาดนับพัน
- E*TRADE – แพลตฟอร์มลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับบัญชี IRA
- Schwab – เทรดหุ้นสหรัฐฯ และ ETF ที่ค่าคอมมิชชั่น 0%
- Fidelity – แพลตฟอร์มเทรดสำหรับการลงทุนระยะยาว
- TD Ameritrade – โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ที่รองรับตลาดเทรดมากมาย
- Robinhood – แพลตฟอร์มเทรดสำหรับมือใหม่
- Ally Invest – แพลตฟอร์มที่รวมบริการด้านการลงทุนและธนาคารไว้ในที่เดียว
แต่ละแพลตฟอร์มเทรดจะต่างกันออกไป โปรดอ่านรีวิวของเราเพื่อเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณที่สุด
รีวิวแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุด
ตอนนี้เราจะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มเทรดที่ควรพิจารณา ไม่ว่าคุณจะกำลังหาแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์สหรือลงทุนใน ETF โดยโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่เราแนะนำจะมีสินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนทุกรูปแบบ
ซึ่งมีค่าธรรมเนียม ตลาดที่รองรับ การใช้งาน และอื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไป จึงน่าจะเหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท
1. Pepperstone โบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก
Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่มีจุดเด่นในการรองรับได้หลากหลายสินทรัพย์การลงทุนกว่า 700 รายการ และเปิดให้บริการกว่า 172 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นคู่สกุลเงิน Forex, หุ้น, ดัชนีและอื่นๆ รวมถึงการเทรด CFDs แบบเลเวอเรจ
นอกจากนี้ Pepperstone ยังมีบัญชีให้เลือกใช้ถึง 2 ประเภทด้วยกัน เพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานที่เป็นมือใหม่และนำเทรดมือาชีพ อีกทั้งยังโดดเด่นในด้านความปลอดภัยระดับสูง จากการถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงาน FCA ในสหราชอาณาจักร จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเทรดได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย
ทั้งนี้ในด้านความเร็ว Pepperstone ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรดที่ทำความเร็วในการเทรดได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีจุดมุงหวังให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างโอกาสในตลาดให้ได้มากที่สุด อีกทั้งยังสามารถรองรับแพลตฟอร์มเทรดแบบ Third party อย่าง MT4, MT5, cTrader และ TradingView เพื่อให้ใช้งานบนอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างสะดวกสบาย
สินทรัพย์
forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, คริปโตเคอร์เรนซี่ และหุ้น
ค่าคอมมิชชั่น
0%
เงินฝากขั้นต่ำ
ไม่กำหนด
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่ระบุ
ข้อดี:
- สเปรดต่ำเริ่มต้นที่ 0.0 pips
- เทรดได้มากกว่า 700 รายการ
- มีระบบ Secure Client Area
- รับส่วนลดเงินคืนทุกวันสำหรับสมาชิก Razor
- มีโปรแกรม Active Trader ที่ใช้งานง่าย
- ใช้แพลตฟอร์มได้ฟรี 4 แพลตฟอร์ม
ข้อเสีย:
- อาจมีค่าใช้จ่ายเรียกเก็บเพิ่มเติมในบางฟีเจอร์
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง
2. PrimeXBT – แอปเทรดครบวงจรสำหรับ ที่รองรับการเทรดได้ทั้ง หุ้น ฟอเร็กซ์ คริปโต และอีกมากมาย
PrimeXBT เป็นโบรกเกอร์และแอปเทรดใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้บนหลายอุปกรณ์ ทั้งยังรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Android และ iOS ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มันเป็นแอปที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลก โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 1 ล้านคนในปัจจุบัน จากจุดเด่ยในด้านการใช้งานที่ง่ายและครอบคลุม
โดยภายใน PrimeXBT นักลงทุนสามารถเทรดคู่สกุลเงินยอดนิยมอย่าง EUR/USD และ BTC/USD รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำและน้ำมัน หรือแม้แต่เทรดดัชนีอย่าง SP500 ได้ภายใน PrimeXBT จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่า นักลงทุนจะสามารถกระจายพอร์ตการลงทุน และใช้ประโยชน์จากแอปนี้ในการสร้างกำไรได้อย่างดี
ทั้งนี้ PrimeXBT มีการรองรับการซื้อสินทรัพย์โดยเฉพาะกับคริปโตได้โดยชำระเงินผ่านบัตร Visa, Mastercard และการโอนเงินผ่านธนาคาร อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยทางไซเบอร์ล่าสุด และฝ่ายบริการลูกค้าที่จะคอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Live Chat
สินทรัพย์
CFDs, Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, คือดัชนีตลาดหุ้น, คริปโตเคอร์เรนซี
ค่าคอมมิชชั่น
0%
เงินฝากขั้นต่ำ
$1
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่ระบุ
ข้อดี:
- ฝากเงินขั้นต่ำเพียง 1 ดอลลาร์
- เลเวอเรจสูงสุดถึง 1,000 เท่า
- รองรับ ETF และเหรียญคริปโต
- เป็นแอปเทรดฟอเร็กซ์อันดับต้นๆ สำหรับใช้งานบนมือถือ
ข้อเสีย:
- ไม่รองรับลูกค้าจากสหรัฐอเมริกา
นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
3. eToro – แพลตฟอร์มเทรดโดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2024
eToro แพลตฟอร์มเทรดและแอพลงทุนที่ดีที่สุดตอนนี้ และยังเป็นโบรกเกอร์อิสลามที่ดีที่สุดและหนึ่งในโบรกเกอร์ Scalping ที่ดีที่สุด ซึ่งรองรับกลุ่มสินทรัพย์มากมายและเหมาะกับนักลงทุนทุกคน หลังจากเปิดบัญชีแล้ว ก็สามารถเริ่มใช้งานได้เพียงฝากเงินแค่ $10
และคุณจะสามารถเข้าถึงหุ้นและ ETF กว่าหลายพันรายการ รวมถึงตลาดอังกฤษ ฮ่องกง แคนาดา เยอรมนี และอื่นๆ โดยนักเทรดสามารถซื้อหุ้น DWAC ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุดในตลาด โดยจะเริ่มต้นเทรดหุ้นได้ตั้งแต่ $10 และไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ (รวมถึงหุ้นต่างประเทศ) eToro ยังเป็นแพลตฟอร์มเทรด Forex ที่สามารถใช้สัญญาณ Forex ที่ดีที่สุดกับเครื่องมือ Copy Trade เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากกลยุทธ์การลงทุน
eToro ยังให้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ โดยรองรับเหรียญกว่า 70 สกุล ซึ่งเป็นเว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศและยังให้เทรด Cardano, Shiba Inu, Ethereum, Dogecoin และ Decentraland โดยต้องลงทุนขั้นต่ำเพียง $10 และมีค่าธรรมเนียมไม่แพง
ซึ่งเป็นค่าคอมมิชชั่นเพียง 1% จากค่าสเปรดและยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Copy Trade ในตลาด เพื่อคัดลอกการลงทุนจากนักลงทุนมืออาชีพ โดยมีกว่า 1,000 นักเทรดที่ได้รับการยืนยันที่ให้คุณได้เลือกตามผลตอบแทนในอดีต, ตลาดที่ลงทุน, และอื่นๆ ซึ่งเป็นอีกตัวเลือกการเทรดเชิงปริมาณที่ดีกว่า โดยสามารถอ่านบทความ การเทรดเชิงปริมาณคืออะไร? เพิ่มเติมได้
สำหรับนักลงทุนแบบพาสซีฟก็มีพอร์ตการลงทุนอัจฉริยะของ eToro ซึ่งจะซื้อสินทรัพย์ต่างๆ และปรับสมดุลโดย eToro โดยจะติดตามตลาดต่างๆ เช่น หุ้น Blockchain, พลังงานหมุนเวียน, หรือเหรียญคริปโต โดยจะไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติมในการใช้ Copy Trade หรือพอร์ตอัจฉริยะ
eToro ยังเป็นโบรกเกอร์อัตรามาร์จิ้นต่ำและได้รับการรับรองด้วยลูกค้ากว่า 25 ล้านราย พร้อมใบเซอจาก FCA, ASIC และ CySEC ซึ่งแม้ไม่ใช่เว็บเทรดคริปโตในไทย แต่ก็รองรับคนไทย พร้อมให้บริการแอพเทรดหุ้นสำหรับ iOS และ Android เหมาะกับคนที่เลือกว่าจะเทรดคริปโตแอพไหนดี
โดยลูกค้าไทยจะสามารถฝากและถอนได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ผ่านบัตรเดบิต/เครดิตหรือ E-wallet ซึ่งจะดำเนินการโดยทันที และยังมีการโอนเงินผ่านธนาคารหรือโอนเงินข้ามประเทศ โดยสามารถอ่านรีวิว eToro ของเราเพิ่มเติมได้
สินทรัพย์
หุ้น, เหรียญคริปโต, ETF, Copy Trade, พอร์ตอัจฉริยะ
ค่าคอมมิชชั่น
0% ในหุ้นและ ETF, 1% ในเหรียญคริปโต
เงินฝากขั้นต่ำ
$10
เงินเทรดขั้นต่ำ
$10
ข้อดี:
- แพลตฟอร์มเทรดหุ้นโดยรวมที่ดีที่สุด
- หุ้นต่างประเทศมีค่าคอมมิชชั่น 0%
- รองรับ ETF และเหรียญคริปโต
- เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม Copy Trade ที่ดีที่สุดในปี 2024
- ฝากขั้นต่ำเพียง $10
- รองรับ Copy Trade และพอร์ตอัจฉริยะ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมเมื่อฝากเงินดอลลาร์
- รองรับการเทรดตามกระแส
- มีแอพมือถือยอดนิยม
ข้อเสีย:
- ไม่รองรับการเทรดแบบความถี่สูง
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง 68% ของบัญชีนักลงทุนสูญเสียเงินเมื่อซื้อขาย CFD กับ eToro
4. Crypto.com – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
หากคุณมองหาแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 เราขอแนะนำ Crypto.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเริ่มต้นเทรด Crypto ที่รองรับเหรียญกว่า 250 สกุลจากเครือข่าย Blockchain และโปรเจกต์มากมาย สมัครง่าย ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
รองรับการฝากเงินผ่านการโอนเงินข้ามประเทศ ไม่มีค่าธรรมเนียม ส่วนบัตรเดบิตและเครดิตจะมีค่าธรรมเนียมที่ 2.99% ของยอดธุรกรรม โดยคุณสามารถซื้อเหรียญคริปโตและฝากเงินลงในบัญชีดอกเบี้ยได้
ซึ่งจะได้ผลตอบแทน 14.5% ต่อปีตามเหรียญคริปโตที่ฝากไว้ โดยคุณสามารถเพิ่มดอกเบี้ยโดยการ Stake เหรียญ CRO ไว้ 3 เดือน โดยบัญชีดอกเบี้ยคริปโตอื่นๆ ก็รองรับเช่นกัน แต่จะให้ดอกเบี้ยน้อยกว่า
Crypto.com มีค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ 0.4% ต่อสไลด์ แต่จะลดเมื่อปริมาณการเทรดเกินระดับที่กำหนด โดยการ Stake เหรียญ CRO จะมีค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด และที่ Crypto.com ก็รองรับตลาด NFT ด้วยเช่นกัน
สินทรัพย์
เหรียญคริปโต
ค่าคอมมิชชั่น
สูงสุด 0.40% ต่อสไลด์
เงินฝากขั้นต่ำ
$20
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่ระบุขั้นต่ำ
ข้อดี:
- รองรับเหรียญคริปโตกว่า 250 สกุล
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ
- รับดอกเบี้ยจากเหรียญคริปโตที่ไม่ได้ใช้งาน
- มีตลาด NFT ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม
- มีแอพมือถือยอดเยี่ยม
- ฝากฟรีทันทีผ่านการโอนเงินข้ามประเทศ
ข้อเสีย:
- รองรับเฉพาะเหรียญคริปโตเท่านั้น
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
5. XTB – แพลตฟอร์มเทรด Forex, หุ้น, เหรียญคริปโตและอื่นๆ
XTB เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ CFD ที่ดีที่สุดที่รองรับการเทรดในตลาดกว่า 2,100 แห่งทั่วโลก รวมถึง CFD ที่มีคู่ Forex หลักและรอง 48 คู่ หุ้นกว่า 2,000 ตัวจากสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย พร้อม 10 เหรียญคริปโตยอดนิยมและสินค้าโภคภัณฑ์อย่างการเทรดทอง น้ำมัน และอื่นๆ
XTB ไม่เก็บค่าธรรมเนียมและไม่มีขั้นต่ำ โดยนักเทรดสามารถเปิดบัญชีทดลองฟรีได้และรองรองรับแพลตฟอร์มเทรดแบบกำหนดเอง xStation 5 ซึ่งทำงานบนเว็บและมือถือ ใช้ง่ายและมีกราฟระดับสูงรวมถึงตัวชี้วัดอีกมากมาย
แต่ XTB จะมีค่าธรรมเนียมสเปรดซึ่งไม่แพงเลย โดยเริ่มต้นที่ 0.1 Pips สำหรับการเทรด Forex และค่าสเปรดประมาณ 0.3% สำหรับหุ้น CFD ส่วนใหญ่ โดยนักเทรดสามารถใช้มาร์จิ้นสูงสุด 500:1 เมื่อเทรด Forex, 10:1 เมื่อเทรดหุ้น, และ 5:1 เมื่อเทรดคริปโต
สินทรัพย์
หุ้น, เหรียญคริปโต, ETF, ดัชนี, Forex, สินค้าโภคภัณฑ์
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับ CFD
เงินฝากขั้นต่ำ
ไม่ระบุ
เงินเทรดขั้นต่ำ
0.01 Lot
ข้อดี:
- เทรด CFD สำหรับหุ้น, เหรียญคริปโต, Forex, สินค้าโภคภัณฑ์, ดัชนี, และ ETF
- เลเวอเรจสูงถึง 500:1 สำหรับเทรด Forex
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่นและขั้นต่ำ
- xStation 5 เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ใช้ง่าย
ข้อเสีย:
- ไม่มีการวิเคราะห์ตลาดระดับสูง
- ไม่สามารถซื้อหุ้นหรือเหรียญคริปโตได้ทันที
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง 76% ของบัญชีนักลงทุนสูญเสียเงินเมื่อซื้อขาย CFD กับ XTB
6. Webull – แพลตฟอร์มเทรดหุ้นสหรัฐและเหรียญคริปโตยอดนิยม
แม้จะไม่ใช่แพลตฟอร์มเทรดคริปโตในไทย Webull ก็ให้บริการเทรดหุ้นและคริปโตอย่างปลอดภัย รองรับกว่า 37 สกุลคริปโต (ส่วนใหญ่เป็นโทเค็นที่มีมูลค่าตลาดสูง) เริ่มต้นเทรดคริปโตได้ตั้งแต่ $1 ไม่มีค่าธรรมเนียม โดยค่าสเปรดจะเริ่มที่ 1% เมื่อเทรดบิทคอยน์และเพิ่มขึ้นสำหรับเหรียญสกุลอื่น
Webull ยังรองรับการเทรดหุ้นในตลาดสหรัฐฯ กว่าหลายพันตัว ไม่มีค่าธรรมเนียม และมีขั้นต่ำที่ $5 หมายเหตุ Webull ไม่รองรับหุ้นต่างประเทศ ยกเว้นใบรับฝากหุ้น โดยจะรองรับการเทรดออฟชั่นและ ETF เช่นกัน
ข้อเสียเดียวคือต้องการโอนผ่านธนาคารจะมีค่าธรรมเนียม $8 ต่อครั้ง ส่วนการโอนข้ามประเทศจะไม่มีค่าธรรมเนียม โดย Webull มีเครื่องมือช่วยลงทุนแบบพาสซีฟไม่มาก แต่นักเทรดที่เก่งๆ ก็มีฟีเจอร์กราฟและตัวชี้วัดให้ใช้งาน โดยนักเทรดมืออาชีพก็สามารถตรวจสอบโบรกเกอร์ MT5 ที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องมือกราฟขั้นสูงและมีคู่มือสำหรับมือใหม่ใหม่ด้วย
สินทรัพย์
หุ้น, เหรียญคริปโต, ETF, ออฟชั่น
ค่าคอมมิชชั่น
ค่าคอมมิชชั่นและสเปรด 0%
เงินฝากขั้นต่ำ
$0
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่ระบุขั้นต่ำ
ข้อดี:
- ฝากเงินไม่มีขั้นต่ำ
- ลงทุนในหุ้นเริ่มที่ $5
ข้อเสีย:
- หุ้นต่างประเทศต้องซื้อผ่านใบรับฝากหุ้นเท่านั้น
- ไม่มีเครื่องมือ Copy Trade
- ไม่รองรับบัตรเดบิต/เครดิตหรือ E-wallet
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง
7. Coinbase – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่
แม้ Coinbase จะไม่ใช่กระดานเทรดคริปโตอันดับ1 แต่ก็เหมาะกับมือใหม่ในการทำกำไรจากเหรียญคริปโต สมัครง่าย และเริ่มลงทุนในคริปโตผ่านบัตรเครดิต/เดบิต
โดนจะมีค่าธรรมเนียม 3.99% เมื่อใช้ฟีเจอร์ซื้อทันที ซึ่งแพงมาก โดยลูกค้าคนไทยบางคนจะเลือกฝากผ่านการโอนเงินข้ามประเทศและเริ่มเทรดคริปโตเมื่อเงินเข้าแทน ซึ่งอาจใช้เวลา 3 วันทำการและมีค่าคอมมิชชั่น 1.49% ต่อสไลด์
Coinbase ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย โดยผู้ใช้ต้องตั้งระบบยืนยันตัวตนสองชั้น ซึ่งจะจำเป็นเมื่อเข้าสู่ระบบหรือถอนเงิน โดย 98% ของลูกค้าคริปโตจะเก็บเหรียญไว้ใน Cold Wallet เช่นกัน ซึ่ง Coinbase Crypto Wallet ก็ได้รับความนิยมในระดับสูง
สินทรัพย์
เหรียญคริปโต
ค่าคอมมิชชั่น
ค่าคอมมิชชั่น 1.49% / ค่าธรรมเนียม 3.99% เมื่อซื้อผ่านบัตรเดบิต/เครดิต
เงินฝากขั้นต่ำ
แพลตฟอร์มแนะนำฝากที่ $50
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่ระบุขั้นต่ำ
ข้อดี:
- มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย
- รองรับการลงทุนผ่านบัตรเดบิต/เครดิต
ข้อเสีย:
- ค่าธรรมเนียม 3.99% สำหรับฟีเจอร์ซื้อทันที
- ค่าคอมมิชชั่นมาตรฐาน 1.49% ต่อสไลด์
- ไม่รองรับ XRP หรือ BNB
- มีเครื่องมือเทรดไม่มากนัก
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
8. Binance – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตระดับสูงที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ
Binance เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรดสำหรับเทรดคริปโตโดยเฉพาะ และมีเครื่องมือมากมายสำหรับนักเทรดมืออาชีพ พร้อมผสานรวมกับ TradingView เพื่อแสดงข้อมูลปริมาณและราคาแบบเรียบไทม์
Binance ยังรองรับคำสั่งซื้อมากมาย รวมถึงตัวชี้วัดและเครื่องมือวาดกราฟ พร้อมมีสภาพคล่องและปริมาณการซื้อขายมหาศาลในตลาดคนิปโต โดยให้ลูกค้าไทยได้ซื้อเหรียญคริปโตกว่า 80 สกุลผ่านบัตรเดบิต/เดบิต
โดยมีค่าธรรมเนียม 4.5% และ 0.5% สำหรับการซื้อทันที ซึ่งงนับว่าถูกมากๆ โดยคุณต้องจ่าย 0.10% ต่อสไลด์เมื่อเทรดคริปโต ซึ่งจะลดได้เมื่อถือ BNB โดยยิ่งมีปริมาณการซื้อขายสูงก็จะลดค่าคอมมิชชั่นลงได้นั่นเอง
สินทรัพย์
เหรียญคริปโต
ค่าคอมมิชชั่น
ค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 0.10% / ค่าธรรมเนียม 4.5% + 0.5% ผ่านบัตรเดบิต/เครดิต
เงินฝากขั้นต่ำ
ขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงิน
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่ระบุขั้นต่ำ
ข้อดี:
- ค่าคอมมิชชั่นมาตรฐาน 0.10%
- รองรับเหรียญคริปโตกว่า 80 สกุล
ข้อเสีย:
- ค่าธรรมเนียมสูงเมื่อใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต
- ลูกค้าในอเมริกาจะเข้าถึงได้ไม่มาก
- ไม่เหมาะกับมือใหม่
- สถานะการกำกับยังไม่ชัดเจน
สินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูงและเป็นการลงทุนที่ไม่มีการกำกับดูแล
9. Interactive Brokers – แพลตฟอร์มเทรดที่รองรับตลาดนับพัน
หากคุณไม่รู้ว่าจะเทรดหุ้นที่ไหนดีในแบบกระจายความเสี่ยง เราขอแนะนำ Interactive Brokers ที่รองรับทุกอย่างตั้งแต่หุ้นและ ETF ไปจนถึงตราสารหนี้และกองทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่
คุณจะได้ใช้คำแนะนำทางการเงินและพอร์ตที่ได้รับการจัดการ ตลอดจนการเข้าถึงหุ้น IPS โดยจะไม่มีค่าธรรมเนียมมือซื้อหุ้นและ ETF สหรัฐฯ ส่วนหุ้นสามัญและสินทรัพย์อื่นๆ จะมีค่าธรรมเนียม ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและตลาด
Interactive Brokers ยังมาพร้อมการลงทุนแบบสัดส่วนที่ให้นักลงทุนซื้อหุ้นสหรัฐได้ในราคาเพียง 1 ดอลลาร์ ซึ่งเหมาะกับทั้งนักลงทุนมือใหม่และมือเก่า พร้อมให้บริการลูกค้าในอีกหลายช่องทาง
สินทรัพย์
หุ้น, เหรียญคริปโต, ETF, กองทุน, IPO, ตราสารหนี้, พอร์ตที่มีการจัดการ
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับหุ้นจดทะเบียนในสหรัฐฯ และ ETF / ค่าธรรมเนียมผันแปรในตลาดอื่นๆ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
$1 สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
ข้อดี:
- เป็นเว็บเทรดขั้นสูง
- รองรับหุ้นกว่าพันตัว
- แพลตฟอร์มเทรดหุ้นราคาไม่ถึงบาทที่ดีที่สุด
ข้อเสีย:
- หุ้นต่างประเทศจะมีค่าธรรมเนียม
- อาจไม่เหมาะกับมือใหม่
- บัญชีขั้นสูงจะมีข้อกำหนดฝากเงินขั้นต่ำที่สูง
10. E*TRADE – แพลตฟอร์มลงทุนที่ยอดเยี่ยมสำหรับบัญชี IRA
E*TRADE เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดสำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยจะสามารถเปิดบัญชีโดยไม่ต้องฝากขั้นต่ำ ซึ่ง E*TRADE จะรองรับบัญชี IRA มากมาย
และยังมีบัญชีเกษียณสำหรับทุกจุดประสงค์ ซึ่งเป็นการลงทุนแบบประหยัดภาษี โดยจะไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชั่นเมื่อซื้อหุ้นสหรัฐฯ และ ETF ส่วนสินทรัพย์อื่นจะมีค่าธรรมเนียมต่างกัน ส่วนหุ้นต่างประเทศและหุ้นสัดส่วนจะไม่รองรับ
ด้วยข้อกำหนดซื้อหุ้นขั้นต่ำตัวเดียว ซึ่งอาจไม่เหมาะกับมือใหม่ แต่ E*TRADE จะเหมาะกับนักเทรดระดับกลางและระดับสูง โดยคุณจะได้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์และการประเมินมูลค่าที่แท้จริง หมายเหตุ การเปิดบัญชีอาจใช้เวลาหลายวัน
สินทรัพย์
หุ้น, ETF, ออฟชั่น, กองทุนรวม, ฟิวเจอร์ส, ตราสารหนี้, พอร์ตการลงทุนล่วงหน้า, IPO
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับหุ้นจดทะเบียนในสหรัฐฯ และ ETF / ค่าธรรมเนียมผันแปรในตลาดอื่นๆ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่รองรับการซื้อหุ้นสัดส่วน
ข้อดี:
- มีบัญชีเกษียณให้เลือกมากมาย
- ฝากเงินไม่มีขั้นต่ำ
ข้อเสีย:
- ไม่มีหุ้นเศษส่วน
- มีเครื่องมือเทรดน้อย
- พอร์ตล่วงหน้าต้องลงทุนขั้นต่ำ $500
11. Schwab – เทรดหุ้นสหรัฐฯ และ ETF ที่ค่าคอมมิชชั่น 0%
Schwab เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดสำหรับปี 2024 ซึ่งมีลูกค้าในอเมริกากว่าร้านรายและเปิดมาตั้งแต่ปี 1971 ซึ่งมีเชื่อเสียงมาอย่างยาวนาและมีกฎระเบียบที่เข้มงวด
โดย Schwab จะให้เข้าถึงหุ้นสหรัฐรวมถึงตลาด OTC และ IPO โดยหุ้นต่างประเทศจะซื้อได้ทางใบรับฝากหุ้นเท่านั้น ซึ่งไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับหุ้นใน NASDAQ และ NYSE และถ้าคุณเลือกหุ้นจาก S&P 500 คุณต้องลงทุน $5
ส่วนใครที่สงสัยว่าจะเริ่มต้นเทรดหุ้นยังไง Schwab ก็มีตลาดการเงินมากมาย ได้แก่ ETF, กองทุนรวมดัชนีหุ้น, ออฟชั่น, ตราสารหนี้, กองทุนรวมตลาดเงิน และอีกมากมาย โดยจะมีคำแนะนำทางการเงิน ซึ่งต้องฝากเงินขั้นต่ำในระดับสูง และยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง ข้อมูลตลาดเชิงลึก พ็อดคาสท์ และเวิร์กชอป
สินทรัพย์
หุ้น, ETF, ออฟชั่น, กองทุนรวม, ตราสารหนี้, กองทุนรวมตลาดเงิน
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับหุ้นสหรัฐ / ค่าธรรมเนียมผันแปรในตลาดอื่น ๆ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
ขั้นต่ำ $5 สำหรับหุ้นใน S&P 500
ข้อดี:
- ซื้อหุ้นสัดส่วนในราคา $5
- โบรกเกอร์ชั้นนำสำหรับพอร์ตอัตโนมัติ
ข้อเสีย:
- หุ้นสัดส่วนมีเฉพาะในบริษัท S&P 500
- หุ้นต่างประเทศมีค่าธรรมเนียมสูง
- ใช้ยากสำหรับมือใหม่
12. Fidelity – แพลตฟอร์มเทรดสำหรับการลงทุนระยะยาว
Fidelity มีเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับนักเทรดระยะสั้นมากมายและยังเหมาะกับการลงทุนระยะยาว ด้วยหุ้น, ETF, กองทุนรวมดัชนีหุ้น, และกองทุนรวม รวมถึงตราสารหนี้อัตราคงที่
ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ซื้อและถือเอาไว้ โดยเฉพาะสำหรับใครที่ต้องการเปิดบัญชีเกษียณ โดยจะมีเครื่องมือเพื่อให้เลือกบัญชี IRA ที่เหมาะกับคุณที่สุด และคำนวณกระแสเงินสดรายเดือนตามการลงทุนที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้คุณยังสามารถประเมินได้ว่าคุณอยู่ในแนวทางการเกษียณได้ภายใน 60 วินาทีหรือไม่ โดยจะไม่มีเงินฝากขั้นต่ำในการเปิดบัญชีมาตรฐาน โดยจะรองรับการลงทุนในหุ้นสัดส่วนที่ราคา $1 ซึ่งไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับหุ้นสหรัฐ
สินทรัพย์
หุ้น, ETF, กองทุนดัชนี, กองทุนรวม, ตราสารหนี้
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับหุ้นสหรัฐ / ค่าธรรมเนียมผันแปรในตลาดอื่น ๆ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
ขั้นต่ำ $1 สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
ข้อดี:
- เครื่องมือ Stocks by the Slice ให้คุณซื้อหุ้นในราคา $1
- มีเครื่องมือทางการเงินนับพันรายการ
ข้อเสีย:
- แอพมือถือใช้ยากสำหรับมือใหม่
- เครื่องมือวิเคราะห์ระดับสูงเหมาะกับนักเทรดมืออาชีพ
- บัญชีวางแผนการเงินมีขั้นต่ำที่สูง
13. TD Ameritrade – โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ที่รองรับตลาดเทรดมากมาย
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเทรดคริปโตที่ไหนดี TD Ameritrade ก็เป็นอีกแพลตฟอร์มเทรดที่รองรับตลาดมากมาย ซึ่งเด่นจากการมุ่งเน้นไปที่นักเทรดมืออาชีพใน Thinkorswim และใช้งานได้บนเว็บและแอพ
โดยจะมีเครื่องมือระดับสูงเพื่อทำกำไรจากตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงตัวชี้วัด 400,000 ตัว ข้อมูลในอดีตและแบบเรียบไทม์ กราฟแบบปรับแต่งได้ และการวางคำสั่งซื้อระดับสูง ซึ่งเข้าถึงได้ผ่านแอพมือถือ Thinkorswim
TD Ameritrade มีค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มในหุ้นต่างประเทศและสินทรัพย์อื่น โดยจะไม่รองรับการถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนสำหรับหุ้นสหรัฐ ซึ่งจะเหมาะกับคนที่วางแผนเทรดด้วยเงินจำนวนมาก
สินทรัพย์
หุ้น, ออฟชั่น, ETF, กองทุนรวม, ฟิวเจอร์ส, Forex, เหรียญคริปโต, ตราสารหนี้, IPO
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับหุ้นสหรัฐ / ค่าธรรมเนียมผันแปรในตลาดอื่น ๆ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่รองรับหุ้นสัดส่วน
ข้อดี:
- แอพ Thinkorswim ระดับสูง
- เป็นโบรกเกอร์ยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่ช่ำชอง
ข้อเสีย:
- ไม่มีหุ้นเศษส่วน
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับหุ้นสหรัฐฯ
- ใช้ยากเเกินไปสำหรับมือใหม่
14. Robinhood – แพลตฟอร์มเทรดสำหรับมือใหม่
แม้จะมีเครื่องมือและฟีเจอร์ระดับสูงไม่มาก แต่ perhaps ก็เป็นแพลตฟอร์มเทรดสำหรับมือใหม่ ไม่มีขั้นต่ำและเริ่มต้นเทรดหุ้นได้ตั้งแต่ $1 ซึ่งเหมาะกับคนที่คิดว่าจะเทรดคริปโตที่ไหนดี รวมถึง ETF และออฟชั่น
ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับทุกสินทรัพย์ที่รองรับ โดยมีหุ้นสหรัฐกว่าพันตัว ส่วนหุ้นต่างประเทศต้องซื้อผ่านใบรับฝากหุ้น และอาจจะฝากเงินยากไปบ้าง เพราะถูกจำกัดไว้ที่ $1,000 สำหรับการฝากทันที
คุณสามารถฝานเงินได้ด้วยการโอนเงินข้ามประเทศหรือธนาคารเท่านั้น โดยจะสามารถเทรดมาร์จิ้นได้ก็ต่อเมื่อเปิดบัญชีระดับ Gold ที่ $5 ต่อเดือน ซึ่งเงินฝากทันทีจะสูงขึ้น และยังให้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ พร้อมแอพมือถือที่เหมาะกับมือใหม่
สินทรัพย์
หุ้น, ออฟชั่น, ETF, เหรียญคริปโต
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับทุกสินทรัพย์ที่รองรับ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
เริ่มต้น $1
ข้อดี:
- เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่
- ไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับหุ้น, ออฟชั่น, ETF, หรือเหรียญคริปโต
ข้อเสีย:
- หุ้นต่างประเทศต้องซื้อผ่านใบรับฝากหุ้นเท่านั้น
- บัญชีทั่วไปฝากได้ไม่เกิน $1,000
- ไม่มีเครื่องมือลงทุนแบบพาสซีฟ
15. Ally Invest – แพลตฟอร์มที่รวมบริการด้านการลงทุนและธนาคารไว้ในที่เดียว
หากคิดว่าการโอนเงินไปมาระหว่างธนาคารและบัญชีโบรกเกอร์เป็นเรื่องยาก Ally Invest ก็คงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดที่เหมาะกับคุณ ซึ่งรวมบริการทางการเงินไว้ในที่เดียว
ซึ่งรวมถึงบัญชีเงินฝากและบัญชีออมทรัพย์ แผนการเกษียณอายุ การจำนอง สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อส่วนบุคคล และที่ Ally Invest ก็ให้คุณเข้าถึงหุ้น ตราสารหนี้ กองทุน และออฟชั่น ซึ่งไม่รองรับเหรียญคริปโตและการถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนของสินทรัพย์
แต่ Ally Invest รองรับหุ้นและ ETF โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ไม่ต้องฝากขั้นต่ำ และเติมเงินได้ผ่านการโอนเงินข้ามประเทศและธนาคาร ซึ่งสามารถเชื่อมต่อแอพมือถือกับบัญชีได้เพื่อให้เทรดได้ระหว่างเดินทาง
สินทรัพย์
หุ้น, ตราสารหนี้, กองทุน, ออฟชั่น, ETF
ค่าคอมมิชชั่น
0% สำหรับหุ้นจดทะเบียนในสหรัฐฯ และ ETF / ค่าธรรมเนียมผันแปรในตลาดอื่นๆ
เงินฝากขั้นต่ำ
$0 ในบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป
เงินเทรดขั้นต่ำ
ไม่รองรับหุ้นสัดส่วน
ข้อดี:
- เหมาะกับมือใหม่
- ค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับหุ้นสหรัฐ
ข้อเสีย:
- ไม่รองรับหุ้นต่างประเทศ
- เรียบง่ายเกินไปสำหรับนักลงทุนมืออาชีพ
- รองรับหุ้น IPO ไม่มากนัก
เปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดยอดนิยม
สำหรับข้อมูลสรุปแบบย่อสำหรับการรีวิวแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดสำหรับ 2024 จะอยู่ในตารางด้านล่าง:
ค่าคอมมิชชั่น
เงินฝากขั้นต่ำ
ฟีเจอร์หลัก
Pepperstone
ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
$0
2 รูปแบบบัญชี, รองรับ 60 คู่สกุลเงิน Forex
PrimeXBT
0%
$1
ฝ่ายบริการลูกค้าที่จะคอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง, 2FA (two-factor authentication)
eToro
0% สำหรับหุ้นสหรัฐและต่างประเทศ และ ETF / 1% สำหรับเหรียญคริปโต
$10
Copy Trade, พอร์ตอัจฉริยะ, ฝากเงินฟรีทันที
Crypto.com
สูงถึง 0.40%
$20
ค่าธรรมเนียมต่ำ, บัญชีดอกเบี้ยคริปโต, ตลาด NFT
XTB
0% บวกค่าสเปรด
ไม่ระบุ
ค่าคอมมิชชั่น 0%, ตลาดมากมาย, ฝากเงินไม่มีขั้นต่ำ
Webull
0% บวกค่าสเปรด
$0
ค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับทุกตลาด, ไม่มีขั้นต่ำ, แอพดี
Coinbase
1.49% / 3.99% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต
แนะนำที่ $50
ซื้อเหรียญคริปโตง่าย, รองรับบัตรเดบิต/เครดิต, มีการกำกับดูแล
Binance
0.10% / 4.5% + 0.5% สำหรับบัตรเดบิต/เครดิต
ขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงิน
ค่าคอมมิชชั่น 0.10%, เครื่องมือเทรดขั้นสูง, รองรับสกุลดอลลาร์
Interactive Brokers
0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
$0
ตลาดนับพัน, เชื่อถือได้, ตลาด OTC
E*TRADE
0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
$0
เหมาะกับบัญชี IRA, ไม่มีขั้นต่ำ, มีสินทรัพย์มากมาย
Schwab
0% สำหรับหุ้นใน S&P 500
$0
ขั้นต่ำ $5 สำหรับหุ้น, พอร์ตที่มีการจัดการ, คำแนะนำทางการเงิน
Fidelity
0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
$0
ยอดเยี่ยมสำหรับการลงทุนระยะยาว, บัญชีเกษียณ, บัญชีขั้นต่ำ $0
TD Ameritrade
0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
$0
แพลตฟอร์ม Thinkorswim, เครื่องมือวิเคราะห์ระดับพรีเมียม, แอพเทรดระดับสูง
Robinhood
0% สำหรับทุกตลาด
$0
ค่าคอมมิชชั่น 0%, เหมาะกับมือใหม่, เทรดขั้นต่ำ $1
Ally Invest
0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ
$0
บริการด้านการธนาคารและการลงทุน, ที่ปรึกษาอัตโนมัติ, ค่ค่าธรรมเนียมต่ำ
เราเลือกแพลตฟอร์มเทรดหุ้นที่ดีที่สุดอย่างไร
ต่อไป เราจะอธิบายว่าเราจัดอันดับและเปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดอย่างไร เพื่อให้คุณได้หาแพลตฟอร์มที่เหมาะกับเป้าหมายการเทรดของคุณ
ใบเซอและความน่าเชื่อถือ
เราเลือกเฉพาะโบรกเกอร์ที่มีใบเซอในการให้บริการในไทย ซึ่งมาจากการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และการอนุมัติโดย FINRA
คุณควรหลีกเลี่ยงแพลตฟอร์มเทรดที่ไม่มีการส่งเงิน และเราจะแนะนำเฉพาะแพลตฟอร์มเทรดที่มีประวัติมายาวนานเท่านั้น
ตลาดที่รองรับ
แพลตฟอร์มเทรดที่เราเลือกจะรองรับตลาดและกลุ่มสินทรัพย์มากมาย เช่น eToro ให้คุณเข้าถึงหุ้นต่างประเทศ, ETF, เหรียญคริปโต, และอื่นๆ
Fidelity และ Schwab ก็เหมาะกับกองทุนรวมและกองทุนรวมดัชนีหุ้น รวมถึงพอร์ตแบบจัดการและคำแนะนำด้านการเงิน
ยอดเงินในบัญชีขั้นต่ำ
หลายๆ แพลตฟอร์มเทรดจะให้เปิดบัญชีโดยไม่ต้องฝากขั้นต่ำ เพื่อให้เข้าถึงตลาดการลงทุนโดนไม่ต้องเสี่ยงเงินมากเกินไป
หากคุณอยากเปิดบัญชีมาร์จิ้นก็จะต้องรักษาเงินในบัญชีขั้นต่ำที่ $2,000 ตลอดเวลา
เงินเทรดขั้นต่ำ
บางแพลตฟอร์มที่เราพูดถึงจะให้ซื้อหุ้นเต็ม เช่น Ally Invest และ E*TRADE
แต่แพลตฟอร์มเทรดที่เรารีวิวอย่าง eToro, Webull และ Robinhood จะให้คุณซื้อหุ้นได้ภายในไม่กี่ดอลลาร์
หากแพลตฟอร์มไม่รองรับหุ้นสัดส่วนและคุณมีงบไม่มาก แพลตฟอร์มนั้นๆ ก็อาจไม่เหมาะกับคุณ
ค่าธรรมเนียมการเทรดและค่าคอมมิชชั่น
หากคุณอยากเทรดหุ้นหรือ ETF สหรัฐ แพลตฟอร์มเทรดที่เราพูดถึงจะให้คุณลงทุนได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น ส่วนสินทรัพย์หรือหุ้นต่างประเทศอาจมีค่าธรรมเนียมร่วมด้วย
ซึ่งควรตรวจสอบก่อนเปิดบัญชี หมายเหตุ หากคุณอยากซื้อหุ้นต่างประเทศ eToro ก็ให้คุณเข้าถึงโดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น
เครื่องมือเทรด
หากคุณเป็นมือใหม่และต้องการเครื่องมือการลงทุนแบบพาสซีฟ คุณจะชอบฟีเจอร์ Copy Trade และพอร์ตอัจฉริยะของ eToro
หากคุณช่ำชองหน่อยก็จะอยากตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง ให้หาแพลตฟอร์มที่มีฟีเจอร์ระดับสูง เช่น ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและทางเทคนิค และเครื่องมือวาดกราฟ
บัญชีทดลอง
บัญชีทดลองเหมาะกับนักเทรดทุกระดับ หากต้องการฝึกกลยุทธ์หรือทำความเข้าใจกับแพลตฟอร์มเทรดก่อนเริ่มลงทุน
นี่เป็นปัจจัยที่เราคำนึงเมื่อรีวิวแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดในตลาด
แอพมือถือ
แพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดจะรองรับแอพมือถือสำหรับเชื่อมต่อกับบัญชี และควรใช้ได้กับ Android และ iOS และเชื่อมกับบัญชีเทรดหลักได้
วิธีการฝากเงิน
เราชอบแพลตฟอร์มเทรดที่ฝากได้ฟรีและทันที เช่น eToro ที่ให้ฝากเงินได้ทันทีผ่าน E-wallet และบัตรเดบิต/เครดิต ไม่มีค่าธรรมเนียม
บริการลูกค้า
เราชอบแพลตฟอร์มเทรดที่ดูแลลูกค้าอย่างดีและรองรับแชทสด
ประเภทของแพลตฟอร์มเทรด
บางแพลตฟอร์มเทรดจะรองรับบางกลุ่มสินทรัพย์และอื่นๆ จะให้คุณเข้าถึงตลาดมากมาย
ด้านล่างคือประเภทหลักของแพลตฟอร์มเทรดที่คุณสามารถเข้าถึงได้
แพลตฟอร์มเทรดคริปโต
แพลตฟอร์มเทรดคริปโตจะให้คุณเทรดเหรียญคริปโตผ่านกระดานเทรดบุคคลที่สาม ให้คุณเทรดกับผู้อื่นนั่นเอง
ส่วน eToro และ Webull จะให้คุณลงทุนในเหรียญคริปโตโดยตรง เหมาะกับมือใหม่
แพลตฟอร์มเทรดหุ้นและ ETF
หลายๆ แพลตฟอร์มเทรดหุ้นและ ETF จะมีค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับหุ้นสหรัฐฯ และ ETF และให้คุณลงทุนในไม่กี่ดอลลาร์
แพลตฟอร์มเทรด Forex
Forex เป็นตลาดการเทรดที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก โดยหากคุณเป็นคนไทยจะพบว่าอุตสาหกรรม Forex ได้รับการกำกับอย่างเข้มงวด
ซึ่งคุณต้องทำตามข้อกำหนดที่เข้มงวด เช่น คงเงินในบัญชีให้ได้ โดยหากคุณสงสัยว่าจะเทรด Forex ที่ไหนดี แพลตฟอร์มเทรด Forex ที่ดีที่สุดจะรองรับคู่สกุลเงินมากมายและค่าเสปรดที่ไม่มาก โดยเฉพาะกับโบรกเกอร์ Forex ค่าสเปรดต่ำ
แพลตฟอร์มเทรดออฟชั่น
ออฟชั่นเป็นอนุพันธ์ทางการเงินซับซ้อนที่ให้คุณเก็งกำไรในมูลค่าอนาคตของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ
เพื่อให้คุณเทรดด้วยเงินทุนที่มากกว่าคุณมี โดยแพลตฟอร์มเทรดออฟชั่นสำหรับมือใหม่คือ Webull และ Robinhood
แพลตฟอร์มเทรดสินค้าโภคภัณฑ์
สินค้าโภคภัณฑ์ที่เทรดมากที่สุด ได้แก่ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ทองคำ เงิน และข้าวสาลี อีกครั้ง ซึ่งอาเข้าถึงการเทรดเหล่านี้ได้ยาก
แต่คุณสามารถลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ eToro ง่ายๆ ค่าคอมมิชชั่น 0%
แพลตฟอร์มเทรดรายวัน
แพลตฟอร์มเทรดรายวันที่ดีที่สุดเหมาะกับคนที่อยากเก็งกำไรในระยะสั้น ซึ่งเปิดและปิดสถานะก่อนตลาดจะปิดในวันนั้นๆ
โดยหากคุณเป็นนักเทรดรายวัน คุณจะต้องถือหุ้นมูลค่า $25,000 ในบัญชีโบรกเกอร์
บทสรุป
เราได้เปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้ และเน้นไปที่แพลตฟอร์มที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ เครื่องมือเทรดที่ดี และบริการลูกค้าเยี่ยม
เราพบว่า eToro เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 ค่าคอมมิชชั่น 0% สำหรับหุ้น, ETF, และเหรียญคริปโต
และยังมี Copy Trade และพอร์ตอัจฉริยะโดยไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ลูกค้าคนไทยสามารถสร้างบัญชี eToro ที่ได้รับการยืนยันภายใน 5 นาที
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง 68% ของบัญชีนักลงทุนสูญเสียเงินเมื่อซื้อขาย CFD กับ eToro